H SEM Motor หวังตั้งเป้าเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของเมืองไทย

H SEM Motor หวังตั้งเป้าเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของเมืองไทย

ยุคนี้ต้องยอมรับว่ากระแสของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งทาง H SEM Motor ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มีการผลิตและวางจำหน่ายรถ EV Bike รวมถึงได้เปิดเผยยอดขายตลอดปี 2565 ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์สูงมาก ด้านหมวดสินค้าประเภทอื่นก็คาดว่าน่าจะทำยอดขายในระดับที่เหมาะสม จึงกล้าตั้งเป้าสู่การเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของเมืองไทยไปเลย

H SEM Motor ตั้งเป้าสู่การเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย

วันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ได้มีการออกมาเปิดเผยว่า รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ H SEM Motor สามารถปิดยอดขายตลอดปี 2565 สามารถปิดยอดขายได้ถึง 70% จากการตั้งงเป้าเอาไว้ที่ 3,000 คัน ขณะที่กลุ่มสินค้าประเภทอื่น เช่น รถสามล้อไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้รื่องยนต์ ก็มีแนวโน้มที่จะทำได้ถึง 92% จากเป้าหมายที่คาดหวังเช่นกัน

FLEX - hsemmotors

เมื่อลองมาประเมินถึงยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า H SEM Motor ทั้งจากการขายขาด การเช่าซื้อผ่านตัวแทน และสาขาถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจสุด ๆ ด้านกลุ่มสินค้าประเภทอื่นผู้ใช้งานเองก็เป็นบุคคลทั่วไปที่นำไปใช้งานตามบ้าน หรือการใช้งานตามสนามกอล์ฟ ซึ่งก็เป็นไปตามจุดประสงค์ของสินค้าชนิดนั้น ๆ อยู่แล้ว

ปัจจุบัน H SEM Motor มีศูนย์บริการในกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 3 แห่ง คือ สาขาบางนา สาขา CU Sport และ สาขา RCA

ด้านสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ มีรวมอยู่ราว 26 สถานี 57 ตู้ให้บริการ ซึ่งจะกระจายกันอยู่ตามห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน

ซึ่งในปี 2566 นี้ ทางด้านของ H SEM Motor ก็ได้วางแผนของตนเองเอาไว้ด้วยการพยายามเพิ่มยอดขายให้ได้เกิน 200% ด้วยเทคนิคเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้า ขยายฐานตัวแทน มีการกระจายจุดบริการให้เช่า วางแผนการตั้งสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ขม. เพิ่มสถานีเปลี่ยนแบตบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพื่อเข้าสู่ตัวเลข 100 ตู้ คาดว่าน่าจะใช้งบราว 400-500 ล้านบาท เลยทีเดียว

แต่ทั้งหมดนี้หากสำเร็จจริงก็ต้องยอมรับว่า H SEM Motor เป็นอีกแบรนด์รถไฟฟ้าที่กำลังเดินหน้ามาถูกทาง และอนาคตมีแนวโน้มทำได้ตามเป้าหมายที่คาดหวังไม่ยากเลย

 ________________________________________

ติดตามข่าวสารดีๆกับชูลิน ได้ที่ www.shulinmoto.com/blogs

 

กลับไปยังบล็อก