เมื่อไหร่ที่เราควรตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ และการตรวจสภาพรถหลักๆ มีอะไรบ้าง?

เมื่อไหร่ที่เราควรตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ และการตรวจสภาพรถหลักๆ มีอะไรบ้าง?

สำหรับใครที่ใช้รถจักรยานยนตร์แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องทำเป็นประจำกันทุกปีนั่นก็คือการเสียภาษี และในการเสียภาษีนั้นเราอาจต้องมีการตรวจเช็คสภาพเพื่อทำการต่อ พ.ร.บ. นั่นเอง แล้วรถแบบไหนล่ะ? ถึงต้องทำการตรวจสภาพรถและเราควรตรวจสภาพรถเมื่อไหร่ มีขั้นตอนหลักๆ อะไรบ้าง ติดตามอ่านกันได้เลยครับพี่น้อง

ทำไมเราต้องตรวจสภาพรถ
    เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารรวมถึงผู้คนอื่นๆ ที่ใช้ถนน เพราะถ้าหากเราใช้รถไปนานๆ แล้วไม่ได้ตรวจสภาพรถ ในบางครั้งเราอาจไม่รู้ว่าส่วนไหนของรถที่ใช้การไม่ได้ เมื่อขับออกไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบสภาพรถเพื่อให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลานั่นเอง เพราะคงไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหรอกจริงไหม?

เมื่อไหร่ที่เราควรตรวจสภาพรถ
    การตรวจสภาพรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ได้มีบัญญัติว่ารถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป ควรได้รับการตรวจเช็คสภาพรถ
แต่อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปได้ เราควรเช็คสภาพรถของเราเองในทุกวันก่อนออกเดินทาง โดยเราสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้นง่ายๆ เช่น การเช็คกระจก ไฟเลี้ยว ไฟเบรก เช็คเบรก เช็คคันเร่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการขับขี่ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้แล้ว และยิ่งในกรณีของรถมอเตอร์ไซค์ที่มีการกำหนดให้ตรวจสภาพรถเมื่อมีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป สิ่งที่เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์มีดังนี้

1. เตรียมพร้อมเอกสารที่ต้องใช้
สำหรับเอกสารที่นำไปใช้ในการตรวจสภาพต้องมีเล่มทะเบียนของรถเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบหมายเลขตัวถัง สี รุ่น ยี่ห้อ โดยเราจะนำรถมอเตอร์ไซค์ไปตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) และหากต้องการตรวจสภาพล่วงหน้าเราสามารถนำรถไปตรวจได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันสิ้นอายุภาษีประจำปี หรือหากเลยกำหนดจะต้องทำการตรวจสภาพรถใหม่อีกครั้ง

2. รู้ขั้นตอนการตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์
เมื่อคุณนำรถมาตรวจสภาพแล้วพบว่าผ่าน ก็ให้นำสมุดคู่มือทะเบียนรถไปแสดงพร้อมเอกสารใบรับรอง แล้วจึงนำไปยื่นที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เพื่อทำการเสียภาษีในแต่ พ.ร.บ. ได้เลย แต่ในกรณีที่ตรวจสภาพรถไม่ผ่าน สามารถนำรถไปแก้ไขข้อบกพร่องในจุดที่ไม่ผ่านให้เรียบร้อยและนำรถมาตรวจสภาพใหม่อีกครั้งภายใน 15 วัน และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจในจำนวนเงินครึ่งราคา แต่ถ้าหากเกิน 15 วัน จะต้องเสียค่าบริการเต็มจำนวน โดยมีอัตราค่าบริการคันละ 60 บาท

3. รู้ไว้ก่อน รถมอเตอร์ไซค์แบบไหนไม่สามารถตรวจสภาพรถกับเอกชนได้
- รถที่มีการเปลี่ยนสีหรือดัดแปลงตัวรถ หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งของรถที่ผิดไปจากเดิม
- รถที่มีตัวเลขรถหรือเลขเครื่องยนต์ที่ไม่ปรากฎชัดหรือเลขชำรุด มีร่องรอยการแก้ไข ขูด ลบ ทำให้เสียหายจนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างชัดเจน
- รถที่มีการแจ้งการแก้ไขชั่วคราวหรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไป
- รถที่มีเลขทะเบียนแบบรุ่นเก่า จะต้องนำรถมาเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่ เมื่อนำรถไปเสียภาษีประจำปี
- รถที่มีปัญหาเรื่องการถูกโจรกรรมมาแล้วและได้รถคืน
- รถที่ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี
- รถที่ถูกยกเลิกทะเบียนเกิน 2 ปี เมื่อไม่ได้ต่อภาษีทำให้ถูกถอดออกจากระบบ ต้องทำการตรวจสภาพและยื่นเรื่องขอเลขทะเบียนใหม่ทั้งหมด จึงไม่สามารถใช้งานทะเบียนเดิมได้

เมื่อรู้ดังนี้แล้วอย่าลืมเตรียมสภาพรถของตัวเองให้พร้อมต่อการตรวจกันนะ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนกันด้วยนะเพื่อตัวเราเองและคนรอบข้าง
_______________________

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ สามารถติดต่อสอบถามกับแอดมินสุดสวยได้ที่
📱Line Official : @shulin (มี @ ด้วยนะคะ)
📱Tel. : 092-699-2253
กลับไปยังบล็อก